โคมไฟแคมป์ปิ้งยี่ห้อไหนดี ? พร้อมวิธีเลือกซื้อให้ตรงใจ

แสงสว่างเปรียบเสมือนเพื่อนร่วมทางยามค่ำคืนที่สำคัญสำหรับชาวแคมป์ปิ้ง การเลือกซื้อโคมไฟแคมป์ปิ้งที่มีคุณภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมขณะตั้งแคมป์ได้อย่างสะดวก ปลอดภัย พร้อมสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น แต่ด้วยตัวเลือกที่มีอยู่หลากหลายในท้องตลาด ทำให้หลาย ๆ คนอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่า ควรเลือกซื้อโคมไฟแคมป์ปิ้งยี่ห้อไหนดี ? บทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีการเลือกโคมไฟแคมป์ปิ้งให้เหมาะสมกับการใช้งาน ติดตามกันได้เลย

ข้อควรพิจารณาในการเลือกโคมไฟแคมป์ปิ้ง

เฉดสีและความสว่างของแสงไฟ

แน่นอนว่าสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง คือผลลัพธ์ของแสงสว่างที่ต้องการ เนื่องจากแต่ละเฉดสีจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันออกไป เช่น แสงขาว (White Light) ที่ช่วยต่อการมองเห็น เหมาะสำหรับการทำกิจกรรมสำคัญที่ต้องการความชัดเจนของแสงสว่าง, แสงสีส้ม (Warm Light) จะให้ความละมุน ผ่อนคลาย เหมาะสำหรับการสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ในการพูดคุย นอกจากนี้ ยังมีแสงสีแดง ซึ่งเป็นเฉดสีที่ไม่รบกวนสัตว์ป่า เหมาะสำหรับการแขวนเพื่อบอกพิกัดตำแหน่ง โดยในปัจจุบันมีโคมไฟบางรุ่นที่มีฟังก์ชันปรับเปลี่ยนสีของแสงไฟให้เหมาะกับการใช้งานตามที่ต้องการ

เมื่อตัดสินใจเลือกเฉดสีแสงสว่างได้แล้ว ความสว่างของแสงก็เป็นสิ่งถัดมาที่ต้องพิจารณา ซึ่งจะมีหน่วยวัดเป็น Lumens (ลูเมน) โดยทั่วไปแล้วหลอดไฟแคมป์ปิ้งจะมีความสว่างอยู่ระหว่าง 50 - 1,000 ลูเมน

• ความสว่าง 50 - 100 ลูเมน ให้ความสว่างอย่างเพียงพอโดยไม่รบกวนสายตา เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การเดินป่า การหาของในเต็นท์
• ความสว่าง 200 - 400 ลูเมน ให้ความสว่างมากขึ้นในระดับปานกลาง จึงเหมาะสำหรับการทำงาน หรือกิจกรรมที่ต้องการความแม่นยำ เช่น การประกอบอาหาร
• ความสว่าง 500 - 1,000 ลูเมน เป็นระดับที่ให้แสงสว่างสูงสุด จึงเหมาะกับการใช้งานที่ต้องการแสงมาก เช่น กลุ่มแคมป์ปิ้งขนาดใหญ่ ทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงกลางคืน รวมถึงการใช้งานในสถานการณ์ฉุกเฉิน

ความจุแบตเตอรี่

ความจุของแบตเตอรี่ เป็นอีกปัจจัยที่ควรนำมาพิจารณาเลือกซื้อในอันดับต้น ๆ เนื่องจากแต่ละความจุจะส่งผลต่อระยะเวลาใช้งาน สำหรับความจุของแบตเตอรี่จะมีหน่วยวัดเป็นมิลลิแอมป์ต่อชั่วโมง (mAh) โดยโคมไฟแคมป์ปิ้งจะมีความจุแบตเตอรี่อยู่ระหว่าง 800 mAh ถึง 10,000 mAh ดังนี้

• ความจุแบตเตอรี่ 800 - 2,500 mAh มักใช้งานได้ ไม่เกิน 8 ชั่วโมง
• ความจุแบตเตอรี่ 2,500 - 5,000 mAh มักใช้งานได้ 8 - 24 ชั่วโมง
• ความจุแบตเตอรี่ 5,000 - 10,000 mAh มักใช้งานได้ 24 - 72 ชั่วโมง

โดยทั่วไป โคมไฟแคมป์ปิ้งจะระบุระยะเวลาการใช้งานเอาไว้ ทั้งในระดับความสว่างสูงสุดและการเปิดไฟแบบเบาสุด ตัวอย่างเช่น โคมไฟแคมป์ปิ้งที่ระบุว่า ใช้งานได้ 8 - 72 ชั่วโมง หมายความว่าเมื่อเปิดสว่างสุดจะใช้งานได้ 8 ชั่วโมงและจะใช้งานได้ 72 ชั่วโมง หากเปิดหรี่ไฟเบาสุด จึงควรพิจารณาเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการในการใช้งาน

ประเภทของไฟ

หากมองหาโคมไฟแคมป์ปิ้งในปัจจุบัน หลายคนอาจเห็นตัวเลือกมากมาย ซึ่งแต่ละประเภทล้วนมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน ดังนี้

• LED เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับนักแคมป์มือใหม่ เนื่องจากเป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย ให้แสงสว่างสม่ำเสมอ มีอายุการใช้งานยาวนาน และทนทานต่อสภาพอากาศ อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบาและพกพาสะดวก เหมาะสำหรับการเดินป่าและแบกเป้
• ตะเกียงน้ำมัน ให้แสงสว่างที่อบอุ่นและนุ่มนวล แต่มีความเปราะบางและต้องเติมน้ำมันเป็นประจำ แต่หากต้องการสร้างบรรยากาศยามค่ำคืนในการแคมป์ปิ้ง ตะเกียงน้ำมันก็นับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม
• ตะเกียงแก๊ส ให้แสงสว่างที่สว่างและร้อนแรง เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการแสงสว่างมาก แต่ควรศึกษาให้ดีก่อนใช้ เพราะอาจเป็นอันตรายหากไม่ได้ใช้งานอย่างถูกต้อง

แต่สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ และต้องการโคมไฟแคมป์ปิ้งที่ใช้งานได้อย่างสะดวกสบาย โคมไฟ LED ก็เป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพียงพอแล้ว

ขนาดและน้ำหนัก

ในการไปแคมป์ปิ้ง น้ำหนักของสัมภาระย่อมเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากวางแผนขนสัมภาระไปด้วยตัวเอง ขนาดและน้ำหนักที่มากเกินไปอาจส่งผลต่อความสะดวกในการพกพา ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้ามากขึ้นเมื่อต้องเดินทาง จึงควรเลือกขนาดและน้ำหนักให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยพิจารณาจากวัสดุของโคมไฟ เช่น หากต้องการน้ำหนักเบาที่พกพาสะดวกก็อาจเลือกโคมไฟที่ทำจากพลาสติก ไทเทเนียม หรือหากต้องการความทนทานต่อทุกสภาพอากาศ ก็อาจเลือกวัสดุที่มีความพรีเมียม แต่มีน้ำหนักมากขึ้น เช่น เหล็ก อะลูมิเนียม

ฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติม

นอกจากความสว่างพื้นฐานแล้ว โคมไฟแคมป์ปิ้งสมัยใหม่ยังมาพร้อมฟังก์ชันการใช้งานเพิ่มเติมมากมายที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการใช้งาน ซึ่งมีฟังก์ชันที่น่าสนใจและควรนำไปพิจารณาเลือกซื้อ ดังนี้

อุปกรณ์เสริมในชุด

นอกจากปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการใช้แสงสว่างแล้ว อุปกรณ์เสริมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อโคมไฟแคมป์ปิ้งเช่นกัน โดยมีอุปกรณ์ที่ควรรู้จัก เช่น

• กระเป๋าเก็บ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะสามารถช่วยป้องกันโคมไฟจากความเสียหายระหว่างการเดินทาง อีกทั้งยังช่วยปกป้องโคมไฟแคมป์ปิ้งแม้ในเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน
• แฉ่งไฟ ช่วยกระจายแสงสว่างให้กว้างขึ้น แขวนตามข้อเกี่ยวที่หลังคาข้างในเต็นท์ หรือใต้ทาร์ป
• คาราบิเนอร์ หรือห่วงเกี่ยวนิรภัย ซึ่งมีไว้สำหรับการแขวนตามข้อเกี่ยวบริเวณหลังคาข้างในเต็นท์ หรือใต้ทาร์ป
• ขาตั้งโต๊ะ โดยจะช่วยในการวางโคมไฟบนโต๊ะยามกินข้าว หรือวางสำหรับทำอาหาร เป็นไปอย่างสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องแขวนใต้ทาร์ปให้มีกลิ่นติด

เลือกโคมไฟแคมป์ปิ้งยี่ห้อไหนดีให้เหมาะกับการใช้งาน ?

สำหรับใครที่ยังตัดสินใจไม่ได้ เพราะไม่แน่ใจว่าโคมไฟแคมป์ปิ้งยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งาน วันนี้เรามี 5 โคมไฟแคมป์ปิ้งจากแบรนด์คุณภาพมาแนะนำกัน

1. Lumena The Classic Premium LED Light Rechargeable Lantern

เริ่มจากโคมไฟแคมป์ปิ้งจากแบรนด์ Lumena ซึ่งเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในด้านการผลิตโคมไฟหลากหลายประเภท โดย The Classic Premium LED Light Rechargeable Lantern เป็นโคมไฟแคมป์ปิ้งดีไซน์ล้ำสมัย ผสมผสานเทคโนโลยี LED มาพร้อมรูปลักษณ์ที่มีความคลาสสิก สามารถปรับความสว่างได้อย่างราบรื่น หน้าปัดเป็นแบบทรงกลม 360 องศา ให้ความสว่างในโทนอบอุ่นขั้นต่ำ 20 ลูเมน ไปจนถึงสีขาวนวล 1,000 ลูเมน โดยมีแบตเตอรี่ความจุสูงสุด 9,600mAh พร้อมมีกระเป๋าเก็บให้มาในชุด

ราคา 5,500 บาท

2. Lumena M3 Multiple LED Light Rechargeable Lantern

อีกหนึ่งโคมไฟที่เหมาะกับการนำไปใช้งานจากแบรนด์ Lumena รุ่น M3 Multiple LED Light Rechargeable Lantern เป็นโคมไฟที่มีดีไซน์กะทัดรัด น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย สามารถถือได้ในมือเดียว จึงพกพาสะดวก โดยมีความจุสูงสุด 3,250mAh เพียงชาร์จ 3 ชั่วโมงครึ่ง ก็สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 200 ชั่วโมง โดยในชุดจะมาพร้อมกระเป๋าเก็บ ขาตั้ง คาราบิเนอร์ และแฉ่งไฟ ให้พร้อมนำไปใช้งานได้ทันที

ราคา 2,750 บาท

3. Goal Zero Lighthouse Micro Charge USB Rechargeable

Goal Zero เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกา ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2008 โดยมีการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลังงานแสงอาทิตย์พกพา ตั้งแต่แผงโซลาร์เซลล์ พาวเวอร์แบงค์ ไปจนถึงโคมไฟพกพา สำหรับ Lighthouse Micro Charge USB Rechargeable จาก Goal Zero รุ่นนี้ เป็นโคมไฟแคมป์ปิ้ง LED ประหยัดพลังงาน ชาร์จได้จากทั้ง USB และแผงโซลาร์ โดยสามารถเลือกใช้งานได้ทั้งในโหมดตะเกียงที่ให้แสงสว่างรอบด้าน (Lantern) หรือไฟฉายสำหรับส่องเฉพาะจุด (Flashlight) ภายใต้ความสว่างสูงสุด 150 ลูเมน

ราคา 1,750 บาท

4. RidgeMonkey Bivvy Lite Pro IR LED Light

Bivvy Lite Pro IR LED Light จากแบรนด์ RidgeMonkey มีชื่อเสียงโด่งดังในด้านอุปกรณ์แคมป์ปิ้งคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน สำหรับโคมไฟรุ่นนี้เป็นโคมไฟที่จะช่วยส่องสว่างได้ทุกสถานการณ์ ด้วยคุณสมบัติเด่นในการปรับความสว่างได้หลากหลายระดับ สามารถสลับเปลี่ยนสีได้ 3 แบบ เพียงแค่กดปุ่มเดียว อีกทั้งยังใช้งานได้นานสูงสุด 180 ชั่วโมง ต่อการชาร์จเพียงครั้งเดียว โดยในชุดจะมาพร้อมรีโมทปรับแสงที่ใช้งานง่าย สามารถเปิด-ปิด ได้สะดวก โดยไม่ต้องเดินไปกด

ราคา 2,100 บาท

5. Kovea Premium Titan Lantern

นอกจากผลิตภัณฑ์ทันสมัยที่สามารถชาร์จไฟได้แล้ว โคมไฟแคมป์ปิ้งจาก Kovea ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นแบรนด์เตาแก๊สและอุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 60 ปีจากประเทศเกาหลีใต้ โดย Premium Titan Lantern เป็นตะเกียงแก๊สขนาดเล็กที่สามารถพับเก็บได้ ซึ่งมีน้ำหนักเบาเพียง 100 กรัม จึงเหมาะสำหรับการเดินป่าและแคมป์ปิ้ง ไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จไฟในพื้นที่ป่า

ราคา 2,650 บาท

หมดคำถามโคมไฟแคมป์ปิ้งยี่ห้อไหนดี ! เลือกโคมไฟแคมป์ปิ้งที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ที่ Gori Outdoor ซึ่งนอกจากจะเป็นแหล่งรวมหลอดไฟแคมป์ปิ้งเอาท์ดอร์พรีเมียมแล้ว ยังมีสินค้าและอุปกรณ์จากหลากหลายแบรนด์มาให้เลือกช็อป พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย สอบถามได้ที่ 064-956-5983 หรือ 097-928-999