ดีลสุดคุ้ม ช้อปฟินๆ กับส่วนลดแบบจุกๆ

แนะนำ ! 8 จุดกางเต็นท์สุดชุ่มฉ่ำ รับธรรมชาติหน้าฝน

หน้าฝนนี้ ใครกำลังมองหาที่พักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศอันร่มรื่นชุ่มฉ่ำ เตรียมตัวแพ็กกระเป๋าและออกไปเช็กอินกับ 8 ลานกางเต็นท์สุดฟินที่เรานำมาฝากกันได้เลย รับรองว่า เปิดประสบการณ์การตั้งแคมป์ปิ้งได้สุดพิเศษ และสนุกไม่เหมือนใครแน่นอน ! 


นักท่องเที่ยวกำลังนั่งชมทิวทัศน์ในจุดกางเต็นท์



แนะนำ 8 จุดกางเต็นท์ที่ห้ามพลาดในหน้าฝน

 


    เมื่อพูดถึงหน้าฝน หลายคนอาจคิดว่าเป็นฤดูกาลที่ควรหลีกเลี่ยง แต่แท้จริงสำหรับสายผจญภัยธรรมชาติ การกางเต็นท์ในหน้าฝนถือว่ามีเสน่ห์และน่าสนใจไม่แพ้ฤดูกาลอื่น ๆ เลย เพราะมีอากาศที่เย็นสบายเหมาะแก่การพักผ่อน รวมถึงยังจะได้ไปสัมผัสผืนป่าอันชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์ ที่ความเขียวขจีปกคลุมไปทั้งพื้นที่ โดยมีลานกางเต็นท์ที่ควรไปเช็กอิน ดังนี้


1. โป่งน้ำร้อนท่าปาย อุทยานห้วยน้ำดัง


โป่งน้ำร้อนท่าปาย สัมผัสประสบการณ์แช่ตัวแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนธรรมชาติท่ามกลางขุนเขาและป่าไม้ ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีน้ำร้อนไหลผ่านทั่วบริเวณถึง 2 บ่อใหญ่และน้ำผุดอีกหลายจุด ซึ่งอยู่ในจุดที่ทางอุทยานอนุญาตให้ตั้งเต็นท์พักแรมได้ ทำให้สามารถลงไปแช่น้ำร้อน นวดผ่อนคลาย พร้อมได้เดินเล่นสูดอากาศบริสุทธิ์ ชมธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยป่าไม้สักได้อย่างใจ 


2. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว


อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ตั้งอยู่ในจังหวัดเพชรบูรณ์ ดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำ ที่ขึ้นชื่อเรื่อง อากาศเย็นสบายตลอดปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 25 องศาเซลเซียส และในบางครั้งน้ำค้างจะกลายเป็นเกล็ดน้ำแข็ง ทำให้อุทยานแห่งชาติน้ำหนาวเป็นหนึ่งในจุดกางเต็นท์ยอดนิยม ที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนหย่อนใจไปกับธรรมชาติท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ความหนาวสุดขั้วในช่วงหน้าหนาวของไทยที่หาได้ยากอีกด้วย


3. บ้านกลอเซโล

4. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว


อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว โดดเด่นด้วยยอดเขาสูงเสียดฟ้า ปกคลุมไปด้วยผืนป่าอุดมสมบูรณ์และแหล่งต้นน้ำลำธาร ราวกับเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาบนยอดเขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ในจังหวัดจัดอุตรดิตถ์และพิษณุโลก โดยมีทั้งบ้านพักอุทยานและจุดกางเต็นท์ที่รองรับไว้ให้นักท่องเที่ยวและสายแคมป์ปิ้งได้มาสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นชุ่มฉ่ำ หากวันไหนอากาศโปร่งฝนไม่ตก ยังสามารถไปชื่นชมกับทะเลหมอก รอพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะในยามที่ดอกหงอนนาค กำลังบานเป็นสีม่วงสวยงามเต็มลานสน


5. อุทยานแห่งชาติภูเรือ


อุทยานแห่งชาติภูเรือ ตั้งอยู่ในจังหวัดเลย โดยมีทิวทัศน์สวยงามประกอบจากทิวเขาสูงสลับซับซ้อนเรียงรายเป็นธรรมชาติ ปกคลุมไปด้วยป่าสนเขา สวนหินธรรมชาติ รวมถึงมีดอกไม้นานาพรรณด้วยพื้นที่ยอดเขาสูง ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝนที่มักมีทะเลหมอกปกคลุมยอดเขา สร้างบรรยากาศโรแมนติกให้การพักผ่อน ที่สำคัญมีลานกางเต็นท์ภายในอุทยานพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกไว้คอยให้บริการ รับรองว่าจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์จากธรรมชาติกันอย่างสบายใจ

ลานกางเต็นท์บนพื้นที่อุดมสมบูรณ์ของทุ่งแสลงหลวง



6. ป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง


    อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง หรือที่รู้จักกันในชื่อทุ่งสะวันนาแห่งผืนป่าไทย มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดพิษณุโลก ทำให้สามารถมองเห็นทุ่งหญ้าทอดยาวได้สุดสายตา ท่ามกลางป่าสน ตื่นตาตื่นใจไปกับทิวทัศน์และพรรณไม้ดอกที่งดงาม โดยเฉพาะช่วงปลายฤดูฝนถึงฤดูหนาว ทำให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นจุดกางเต็นท์ที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ได้ถ่ายรูป ชมทิวทัศน์แสงอาทิตย์ที่สาดตกกระทบลงมาตัดกับผืนป่าสีเขียวขจี


7. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า


    อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาสูงบริเวณรอยต่อ 3 จังหวัด  ได้แก่ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และเลย ทำให้มีความโดดเด่นด้วยทิวทัศน์ที่หลากหลาย ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงเป็นแหล่งโบราณคดีที่มีคุณค่า โดยมีกิจกรรมที่เหมาะสมกับการท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เพื่อสัมผัสป่าไม้ที่หลากหลาย ชมพืชพรรณ สัตว์ป่า รวมถึงพิชิตเส้นทางสุดท้าทายบนยอดเขาภูหินร่องกล้า โดยมีจุดกางเต็นท์และบ้านพักที่พร้อมให้บริการทุกวัน


8. ภูชี้เพ้อ


    ภูชี้เพ้อ เป็นหนึ่งในจุดชมวิวทะเลหมอกที่ไม่ควรพลาดอีกหนึ่งแห่ง สำหรับใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายต้องปักหมุดไว้เลย ด้วยพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอขุนยวม ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเหนือคำบรรยายของภูเขาที่สลับซับซ้อนเป็นชั้นได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ด้วยทิวทัศน์รอบบริเวณเป็นป่าสน ป่าดิบ และทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ ซึ่งถึงแม้จะยังเป็นพื้นที่ที่ยังไม่ถูกค้นพบมากนัก แต่ภูชี้เพ้อก็มีจุดกางเต็นท์ พร้อมร้านค้าและห้องน้ำไว้ให้บริการ  



การเตรียมตัวก่อนไปลานกางเต็นท์ในหน้าฝน


    ถึงแม้ว่าการเดินทางไปกางเต็นท์ในหน้าฝนจะมีเสน่ห์น่าสนใจ จากการได้สูดอากาศบริสุทธิ์และชื่นชมความงามของทิวทัศน์ที่เขียวชอุ่มได้อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังมีเรื่องความปลอดภัยที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่งหากเตรียมรับมือให้พร้อม ก็จะช่วยเพิ่มความสบายใจในการไปกางเต็นท์นอนได้ โดยมีการเตรียมตัว ดังนี้

  • ตรวจสอบสภาพอากาศ โดยควรอัปเดตล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์จนกว่าจะถึงวันเดินทางและจัดเตรียมอุปกรณ์กันฝน เช่น เสื้อกันฝน ร่ม ผ้าใบกันน้ำ ให้พร้อมเผื่อต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศ

  • ห้ามกางเต็นท์ในจุดเสี่ยง เช่น 

    • จุดที่ขวางกระแสน้ำไหลที่เสี่ยงต่อน้ำท่วม ดินถล่ม

    • บริเวณลาดเอียงหรือเชิงเขาที่เสี่ยงต่อดินถล่ม

    • ใต้ต้นไม้ที่แห้งตายที่เสี่ยงต่อการที่กิ่งไม้และโคนต้นจะหักล้มลงมา

    • พื้นที่ต่ำที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม

  • อย่าจุดไฟที่ทำให้เกิดการเผาไหม้ เนื่องจากหากอากาศในเต็นท์ไม่มีการถ่ายเทก็อาจทำให้ขาดอากาศหายใจได้ รวมถึงอาจเกิดประกายไฟจนเผาไหม้เต็นท์

  • เช็กสภาพพื้นที่ให้ดี ก่อนกางเต็นท์ ควรตรวจสอบจุดกางเต็นท์และบริเวณโดยรอบ โดยเลือกพื้นที่เรียบ หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีหินแหลมคม รวมถึงตรวจสอบให้ดีว่าไม่มีสัตว์ป่า หรือมีความเสี่ยงในการเกิดอันตรายด้านอื่น ๆ

  • เตรียมพื้นที่ให้พร้อมสำหรับตากเต็นท์ นอกจากพื้นที่ในการกางเต็นท์แล้ว ยังควรเคลียร์พื้นที่โดยรอบให้สะอาด เตรียมไม้แขวน หรือเชือกสำหรับตากผ้าเพื่อดูแลอุปกรณ์ให้แห้ง ในวันที่ต้องกลับจากแคมป์

  • ติดผ้าไว้เช็ดอุปกรณ์ก่อนกลับ เพื่อจัดการอุปกรณ์ให้แห้งก่อนจัดเก็บ ทั้งยังช่วยป้องกันการเกิดสนิมและเชื้อรา รวมถึงควรเตรียมถุงพลาสติกไว้ใส่เสื้อผ้า และอุปกรณ์ที่เปียกด้วย 


แคมป์ปิ้งในหน้าฝนได้อย่างสบายใจ เพียงเตรียมตัวให้พร้อม ! แล้วเลือกช็อปกับ Gori Outdoor ร้านขายเต็นท์เดินป่า ที่มีสินค้าพรีเมียมคุณภาพดีมากมายจากหลากหลายแบรนด์ชั้นนำ พร้อมโปรโมชันสุดพิเศษมากมาย สอบถามได้ที่ 064-956-5983 หรือ 097-928-9997


ข้อมูลอ้างอิง 

  1. Thailand’s top five national parks for the rainy season. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนยน 2566 จาก https://www.nationthailand.com/thai-destination/40018072 

  2. สถานที่ท่องเที่ยว. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 มิถุนยน 2566 จาก https://thai.tourismthailand.org/Search-result/attraction